บทที่ ๑๐ - นภากระจ่างสว่างส่อง : ดั่งพรหมอหิตา
“ชู้ววว คุณชายกับน้ำตาไม่เหมาะกันเลยเสียสักนิด ”
จักรินทร์เอ่ยราวกับปลอบเด็กน้อยที่กำลังเสียขวัญ
มือหนาทั้งสองข้างประคองวงหน้าหวานกลมปลายนิ้วโป้งคอยเกลี่ยหยาดน้ำใสใต้ดวงตาเรียวสัมผัสแผ่วเบาคล้ายกลัวว่าแก้วบอบบางใบนี้จะแตกสลาย
วงแขนแกร่งตวัดโอบรัดรอบเอวบางธารน้ำใสไหลรินไม่ขาดสาย จักรินทร์เชยคางมนของคนในอ้อมกอดและก้มลงประทับริมฝีปากหนาบนแก้มนวล
คนตัวเล็กสะอึกกลั้นหายใจกับสัมผัสที่ไม่คุ้นชินแต่ก็ไม่ได้ผลักไสให้ความใกล้ชิดนี้
เห็นอย่างนั้นเขาจึงจูบซ่ำที่แก้มขึ้นสีอีกข้าง อ่อนโยน แผ่วเบาและอบอุ่น
“คงจะดีกว่านี้หากผมรับความทรมานแทนคุณได้”
นัยน์ตาคมกวาดตามองพวงแก้มและจมูกรั้นของคนที่หยุดร้องไห้แล้วที่ตอนนี้ขึ้นสีแดงระเรื่อ
ไม่รู้ว่าเพราะพึ่งผ่านการร้องไห้อย่างหนักหรือเพราะเคอะเขินกันแน่
ก่อนจะเลื่อนสายตาหยุดที่ริมฝีปากอิ่มสีซีด
จักรินทร์กัดฟันแน่นเพื่อกักเก็บอารมณ์ข่มใจไม่ให้ร่างกายพลั้งเผลอต่อกลิ่นหอมรัญจวนของดอกแก้วเจ้าจอมที่ส่งกลิ่นยั่วยวนราวเชิญชวนให้หลงในวังวนแห่งกามา
มันชั่งหอมหวาน
จนเขาอยากดอมดมและเชยชมดอกไม้งาม
“อย่ากัดปากสิครับ
มันห้อเลือดแล้ว”คุณชายเล็กกัดริมฝีปากล่างของตัวเองเพื่อผ่อนปนความทรมานของร่างกายจนบวมช้ำ
จักรินทร์แทบหยุดหายใจเมื่อเห็นการกระทำแสนยั่วยวนที่ไม่ได้ตั้งใจของคนตัวเล็ก
ปลายนิ้วสากลูบไล้ริมฝีปากบวมเพื่อให้หยุดกัด
นัยน์คมหลุบมองตามการเคลื่อนไหวของนิ้วมือก่อนจะค่อย ๆ
เลื่อนใบหน้าประทับจูบคุณชายเล็กโดยไม่ได้ลุกล้ำแต่อย่างใดพร้อมกับคุณชายเล็กที่หลับตาลง
จักรินทร์ขบเม้มริมฝีปากล่างที่ห้อเลือดเล็กน้อยอย่างแผ่วเบา
มือข้างหนึ่งประคองกรอบหน้าของคนตัวเล็ก ส่วนอีกมือที่ว่างลูบไล้แผ่นหลังบางไล่ลงมาถึงสะโพกผาย
ก่อนจะเผลอสอดมือเข้าไปสัมผัสหน้าท้องนุ่มนิ่มใต้ร่มผ้าตามอุปนิสัยของพ่อหนุ่มนักรัก
“อะ”คุณชายเล็กหลุดเสียงร้องตกใจเมื่อถูกฝ่ามือเย็นสัมผัสผิวกาย
เจ้าของมือหยุดชะงักหลุดออกจากมนต์สะกดนั้น “ขอโทษครับ”ขณะถอดถอนมือหนาออกจากหน้าท้องเรียบแบนในใจนึกเสียแต่ต้องพึงระลึกถึงคำสัญญา
ขณะที่เขากำลังผละหนี
“ยะ
อย่าไป”คนตัวเล็กคว้าชายเสื้อของพ่อหนุ่มนักรักทันที
ก้มหน้าเอ่ยไม่สบตาผู้ฟังทว่าร่างกายยังคงสั่นระริก
“คุณชาย แต่ว่ามัน ผมอาจจะทนไม่ไหว”จักรินทร์อึกอักพยายามกลั้นหายใจไม่ให้สูดดมกลิ่นหอมที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างเชิญชวน
มองหน้าคนพูดอย่างไม่เข้าใจหากให้เขาอยู่ต่อนานกว่านี้สติที่รวบรวมไว้ต้องกระเจิงหายเป็นแน่
“ได้โปรด...
สัมผัสเล็ก”คำพูดน่าอายเอื้อนเอ่ยออกมา คนตัวเล็กต้องการรับสัมผัสนั้น ยิ่งเขาสัมผัสความทรมานก็เหมือนค่อย
ๆ เลือนหาย สิ้นประโยคเส้นผิดชอบชั่วดีคำมั่นสัญญาต่างขาดผึง
จักรินทร์ล็อคคอคุณชายเล็กให้รับจูบอันร้อนแรงกดคางมนต์จนเรียวปากอิ่มเผยอรุกล่ำกวาดต้อนลิ้นเล็กไม่ประสาด้วยลิ้นหยาบอย่างเร้าร้อนเต็มไปด้วยความปรารถนา
“ถ้าอย่างนั้นขอให้พี่ได้เชยชมน้องเล็กเถิดนะเจ้าดอกไม้งาม”พ่อหนุ่มนักรักผละหน้าออกจ้องมองคนตัวเล็กที่หอบโยนหน้าดำหน้าแดงกอบโกยอากาศเพราะเมื่อสักครู่ชายหนุ่มไม่มีช่องโหว่ให้เขาหายใจเลยแม้แต่น้อย
“อืม”พยักหน้างึก ๆ
ไม่กล้าสบตาคมตรง ๆ หน้าอายอย่างยิ่งแต่มันก็เป็นสิ่งที่ร่างกายและหัวใจปรารถนานี่
เพียงเท่านั้นจักรินทร์ก็ยกร่างเล็กขึ้นตักหนากอดรัดคนน้องแนบชิดจมูกโด่งฝังแทบทุดจุดของลำคอขาวแม้จะมองไม่เห็นแต่เขาขอหลับตาลงเสียดีกว่า
คุณชายเล็กขนลุกซู่เอียงหน้าหนีแต่มันกลับยิ่งเปิดทางให้คนเอาแต่ใจสูดดมซอกคอขาวได้มากขึ้น
ส่งเสียงน่าอายอื้ออึงในลำคอเผลอขยุ้มเสื้อนอนสีน้ำตาลก็คนพี่ทุกครั้งที่ถูกริมฝีปากหนาดูดดึง
“น้องเล็กอย่ากัดปาก”เหมือนคนน้องเบลอจนไม่ได้ยินที่คนพี่พูด
คนใจร้อนอย่างจักรินทร์จึงไม่รอช้าจุมพิตริมฝีปากอิ่มเนิบนาบและอ้อยอิ่ง มือทั้งสองนั้นปลดกระดุมเสื้อนอนผ้าแพรสีเขียวอ่อนทุกเม็ดอย่างชำนาญรวมถึงเสื้อของตัวเองและค่อย
ๆ ดันร่างเล็กที่ยังไม่รู้เรื่องราวจนกระทั่งแผ่นหลังแนบเตียงนอนเพราะหลงมัวเมารสจูบนั้น
อกบางไร้อาภรณ์กระเพื่อมหอบขึ้นลง จักรินทร์ได้แต่ตั้งสติบอกตัวเองว่าเย็นไว้ไอ้เสืออย่าทำให้น้องกลัว
จักรินทร์รวบข้อมือเล็กของคุณชายให้โอบรอบลำคอหนา นัยน์ตาคมสอดประสานกับดวงตาเรียวรีที่เบิกตาขึ้นแม้ดวงตาดวงนั้นจะไม่เห็นเขา
เขาก็อยากที่จะจ้องมองมันพลางเกลี่ยพวงแก้มใสระเรือ “รู้สึกอย่างไรก็แสดงออกมา ต้องการอะไรขอแค่บอก
ไม่ต้องเขินอายพี่อยากให้เรามีความสุขด้วยกันทั้งคู่”
ไม่นานมือปลาหมึกก็เริ่มทำตามเจตนารมณ์ปัดป่ายตามเรือนร่างขาวนุ่มแกล้งปัดผ่านยอดอกสีหวานจนแขนที่โอบรัดลำคอหนากระชับขึ้นจากความรู้สึกแปลกใหม่ที่ได้รับ
จักรินทร์โน้มลงไปละเลงลิ้นตักตวงความหอมหวานจากยอดอกทั้งสองข้างจนคนตัวเล็กแอ่นอกรับแผ่นหลังลอยขึ้นจากเตียง
ริมฝีปากหนาเปลี่ยนเป้าหมายพรมจูบทั้งแต่กลางแผ่นอก
หน้าท้องแบนนุ่ม ใต้สะดือเหนือขอบกางเกง เขารูดกางเกงนอนขายาวออกพร้อมกับกางเกงซับในสีขาวในคราวเดียว
คุณชายเล็กที่ก่อนหน้านี้สติล่องลอยพลันนำมือมาปิดของสงวนเมื่อกายเนื้อกระทบกับสายลมเย็น
“อายหรือ?”ร่างหนาที่ผละตัวออกเพื่อปลดเปลื้องกางเกงของตัวเองออกเอ่ยถามเมื่อเห็นปฏิกิริยาของคนบนที่นอน
เขากวาดสายตามองร่างเปื่อยเปล่านั้นด้วยใจกระตุก ผิวขาวนั้นกลายเป็นสีแดง
แดงไปทั้งตัวชั่งสวยงามกระไรเช่นนี้
‘อย่าถามมากได้ไหม’คนตัวเล็กไม่พูดอะไรเพียงตวัดตามองเคือง
ๆ ได้ยินเสียงหัวเราะทุ้มต่ำคล้ายกลั่นแกล้งคิดว่าจะหยิกสักทีแต่ก็ไม่ทันการเมื่อคนด้านบนจับขาเขาตั้งชันและแยกออกกว้างแถมพรมจูบต้นขาอ่อนด้านในอย่างรวดเร็ว
ลมหายใจร้อนและปลายนิ้วสากลูบวนรอบช่องทางหวานเปียกชื้นเนื่องจากเป็นวันปล่อยกลิ่นและถูกการเล้าโลม
ผลพวงความแปลกแยกของร่างกายอหิตา
จักรินทร์กดนิ้วเบิกทางเข้าไปสำรวจช่องทางหวานที่ตอดรัดนิ้วของเขาถี่หมุนวนจนคุณชายเล็กเบ้หน้าด้วยความเจ็บปวด
ควานหาจุดกระสั่นและหยุดเมื่อได้รับเสียงร้อง “อะ” เพื่อความแน่ใจจึงขอลองอีกครั้ง
“อะ อ๊ะ”
“ตรงนี้สินะ”เขายกยิ้ม “พี่กำลังจะเข้าไปหากเจ็บต้องบอกเมื่อสุขสมก็เช่นกัน”จักรินทร์ยกขาเรียวพาดบ่ากว้าง
ชักรูดแกนกายขยายใหญ่แล้วจับมันค่อย ๆ
สอดเข้าไปยังช่องทางด้านหลังของคุณชายเล็กอย่างระวัง
“เล็กเจ็บ”แขนเรียวที่กำลังเอื้อมมาดันร่างสูงออกถูกจับไว้ให้สอดประสานกับนิ้วหยาบทั้งสิบนิ้ว
จักรินทร์ป้อนจูบอันดูดดื่มจนคนที่น้ำตาซึมหยุดเพ่งความสนใจเพราะมัวเมาในรสจูบ
เขาจึงค่อยสอดใส่เขาไปจนสุดทางและขยับเข้าออกเนิบนาบสร้างความคุ้นเคยให้กับช่องทางนั้น
ราวกับได้เติมเต็มแม้จะเจ็บปวดแต่ทว่ากับสุขสม
ยิ่งมองไม่เห็นร่างกายยิ่งตอบสนองทุก ๆ สัมผัสของเขาอย่างตราตรึง
“อื้อออ”เสียงครางจากคนน้องเปล่งออกมาไม่ขาด
จักรินทร์ชักรูดแก่นกายเล็กอมชมพูของคนใต้ล่างพร้อมกับกระแทกตัวตนกับก้นกลมระรัวถี่และเร็วมากขึ้นดั่งพายุเพลิงที่โหมกระหน่ำ
และปรนเปรอร่างบางไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่นานคนตัวเล็กก็กระตุกและปล่อยน้ำขาวขุ่น ร่างหนาขยับกายตัวเองสองสามครั้งก็ปลดปล่อยความต้องการฉีดเข้าในช่องทางหวานสีแดงสดของคนตัวเล็กจนหมด
จักรินทร์จัดการเช็ดและทำความสะอาดกายอ่อนปวกเปียกให้อีกคนสบายตัว
“please know that I will
always be by your side.”
คุณชายเล็กยกยิ้มบางอย่างไร้เรี่ยวแรงรับจุตพิศที่ขมับจากริมฝีปากหนา ประโยคนี้คล้ายเป็นเสียงกล่อมนอนจนคนตัวเล็กพล่อยหลับไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น